
ใบเสมาที่พบเป็นใบเสมาหินทราย ถูกฝังอยู่ใต้ต้นไทรภายในสำนักสงฆ์ไม่มีชื่อ มีทั้งหมด 2 หลักมีความกว้าง 80 ซม. ยาว 130 ซม.และหนา 20 ซม.นอกจากนี้1ในใบเสมาที่พบยังมีความแปลกไปกว่าหลักอื่น ๆ คือมีอักษรโบราณจารึกไว้ที่ด้านหนึ่ง โดยอักษรทีความยาวประมาณ 4 บรรทัด ซึ่งเจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัดได้ทำการคัดลอกตัวอักษรบนใบสมาหินทรายเพื่อ ส่งพิสูจน์ว่าเป็นข้อความที่เขียนไว้เรื่องอะไร
วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ใบเสมาที่พบเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีอายุราว 1,000-1,2000 ปี ถูกสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 1,500 – 1,700 ในสมัยทราวดี ซึ่งรูปร่างของใบเสมาที่พบมีรูปร่างคล้าย ๆ กับที่พบอยู่ในเขตบริเวณเมืองฟ้าแดดสงยาง ที่เป็นเมืองเก่าแก่โบราณและมีความรุ่งเรืองมากในยุคทวาราวดี แต่สิ่งที่มหัศจรรย์อยู่ที่ตัวอักษรที่จารึกอยู่ เนื่องจากเป็นอักษรอยู่ในช่วงยุคหลังของอักษรปัลวะโบราณ เป็นอักษรโบราณมีอายุกว่าพันปี
“เบื้องต้นต้องรอผลการพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญ เพราะอักษรที่พบมีความคล้ายคลึงกับปัลลวะ หรือ อักษรคฤณห์ เป็นอักษรสระประกอบที่มีต้นกำเนิดมาจากอินเดียใต้ มีอายุอยู่ในช่วงระหว่างพุทธศตวรรษที่ 15 - 17 ซึ่งน่าจะเป็นอักษรในยุคหลังอักษรปัลละวะ และอักษรดังกล่าวเคยใช้เขียนภาษาทมิฬและภาษามาลายาลัม โดยเข้าไปแทนที่อักษรแบบเดิมซึ่งมีต้นกำเนิดจากอักษรพราหมีและยังใช้เขียน ภาษากลุ่มดราวิเดียนอื่น ๆ ด้วย ทั้งนี้อักษรปัลลวะเป็นอักษรชนิดแรกที่แพร่เข้ามาสู่เอเชียตะวันออกเฉียง ใต้ โดยอักษรที่พบบนเสมาหินทรายคาดว่าน่าจะเป็น อักษรต้นแบบของอักษรมอญโบราณ อักษรขอมโบราณ และอักษรกวิ”
นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องรู้ให้ได้คือข้อความที่จารึกไว้บนใบเสมา ที่อาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะให้รู้ถึงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ย้อนหลังไป เมื่อเกือบ 2 พันปี ที่ตอนนี้ได้ทำการคัดลอกตัวอักษรบนในเสมาและจะนำส่งให้ผู้เชี่ยวชาญใน กระทรวงวัฒนธรรมได้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
Thank T News
http://www.tnews.co.th/html/index.php
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น