วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

2 พ่อลูกสำรวจขอบอวกาศด้วยไอโฟนและกล้องธรรมดาๆ

ดูๆๆๆ ฝรั่งเค้าทำอะไรแปลกๆ ใจถึงแต่ได้ประโยชน์ เป็นอย่างใดลองอ่าน แถมคลิปให้ดูอีกขอรับ
Luke Geissbuhler หนุ่มอเมริกันวัย 40 ปี และลูกชายวัย 7 ขวบของเขา จัดการถ่ายวีดีโอชายขอบของอวกาศด้วยตัวเอง ซึ่งคุณภาพของภาพที่ได้มานั้นก็ไม่ค่อยต่างอะไรกับการถ่ายโดยกล้องชั้นยอดและเลนส์ชั้นเยี่ยมขององค์การนาซ่า แต่จริงๆแล้วทีมงานสองพ่อลูกคู่นี้ใช้เพียงลูกโป่ง โทรศัพท์ไอโฟน และกล้องวีดีโอระบบ high-definition เป็นหลักเท่านั้น

วิธีการหลักๆของพวกเขาก็คือการสร้าง "ยาน " พิเศษขึ้นจากกล่องโฟมบรรจุอาหารที่ทิ้งแล้ว ในนั้นพวกเขาจะใส่อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคทั้งสองตัวลงไป ก่อนที่จะผูกติดยานของพวกเขากับลูกโป่งสำรวจอากาศ โดยกล้องวีดีโอจะทำหน้าที่ถ่าย ส่วนไอโฟน จะทำหน้าที่ช่วยเหลือในการติดตามตำแหน่งของยาน

หลังการศึกษา วิจัย และทดสอบอยู่นานหลายเดือน นักวิทยาศาสตร์สมัครเล่นทั้งสองก็ได้ปล่อยยานของพวกเขาขึ้นสู่ท้องฟ้าจากเมืองนิวเบิร์จ รัฐนิวยอร์ก เมื่อเดือนสิงหาคม ระหว่างการบิน 102 นาที ยานของพวกเขาขึ้นไปได้สูงถึง 30 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก ซึ่งเป็นชั้นบรรยากาศระดับสตราโตสเฟียร์ ก่อนที่ลูกโป่งของพวกเขาจะแตก แต่ยานก็ตกลงสู่พื้นด้วยความนุ่มนวล ด้วยความช่วยเหลือของร่มชูชีพ





จากนั้นสองพ่อลูก ก็ติดตามไปเก็บยานด้วยความช่วยเหลือของระบบ จีพีเอสและแสงไฟสัญญาณ LED ที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องไอโฟน ซึ่งก็ปรากฏว่ามันไปค้างอยู่บนต้นไม้

Geissbuhler ที่มีหน้าที่การงานเกี่ยวกับการทำหนัง บอกว่าเขาได้แนวความคิดในโครงการเรื่องนี้มาจากการที่เขามักหาอะไรสนุกๆทำกับลูกชายอยู่เสมอ แต่สำหรับโครงการนี้เขายอมรับว่า แม้จะศึกษา วางแผน และทดสอบอยู่นานหลายเดือน ก็รู้ดีว่าโอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นมีอยู่แค่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และการที่ผลงานออกมาดี ก็ต้องถือว่าพวกเขาโชคดีมากๆ

โดยเมื่อสามารถกู้อุปกรณ์กลับมาได้แล้ว พวกเขาก็ยังต้องกังวลว่าอุปกรณ์ที่ส่งไปบันทึกภาพนานถึง 70 นาที จะสามารถเก็บภาพอะไรขึ้นมาได้บ้างหรือไม่ และเมื่อได้เห็นภาพที่เก็บมาได้ ก็จึงรู้สึกดีใจมาก เพราะสิ่งที่มันได้กลับมานั้นมากเกินกว่าที่พวกเขาคาดหวัง เมื่อทั้งกล้องและโทรศัพท์มือถือสามารถทนทานกับระดับอุณหภูมิติดลบ 60 องศาเซลเซียส ลมที่พัดแรง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วในการตก 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พวกเขาบอกว่า แม้แนวความคิดดูจะง่ายๆสบายๆ อุปกรณ์ก็ไม่ค่อยมีอะไร แต่ปรากฏว่ามันซับซ้อนมากกว่าที่คิด งานง่ายๆก็เลยกลายเป็นงานที่ค่อนข้างที่จะไฮเทค เพราะหากผิดพลาด มันอาจกลายเป็นเรื่องอันตรายได้ นอกจากนั้น พวกเขาก็ต้องวางแผนให้ยานของลงจอดบนบก แทนที่จะเป็นในน้ำ ซึ่งเป็นอันตรายกับอุปกรณ์อิเล็คโทรนิค

หลังจากทำงานเสร็จ หนุ่มรายนี้ก็เขียนหนังสือเรื่องประสบการณ์ของเขาออกจำหน่าย เพราะไม่ต้องการให้ใครทดลองทำตามอย่าง โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงต่างๆ









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น