วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

โอเกะ-แค่ 3ชม. แพงโหด เช็กบิล"3หมื่น"บ.

เอากันเข้าไปไอ้รา้น แบบนี้มีเยอะมีวิธีง่ายๆก่อนกินอะไรถามมันก่อนนะขอรับ ถ้าเป็นสมัยกระผม จะจับตัดหัว ใส่ขื่อ ขา แห่ประจาน

น้ำแข็ง550ลูกอมเม็ดละ100 เหยื่อแจ้งจับ-โวยโดนปล้น ลูกค้าบางคนถูกยึดรถบีเอ็ม




โอเกะแสบ - ร.ต.ต.อัฎฐะพันธ์ ใจเที่ยง อายุ 42 ปี อดีตตำรวจ แจ้งความสน.ประชาชื่น โดนร้านคาราโอเกะ"เมโลดี้" ถนนงามวงศ์วาน ชาร์จกว่า 3 หมื่นบาท โดยโชว์บิลที่ทางร้านลดให้เหลือ 16,350 บาท มีการล้อมกรอบขู่ตื้บด้วย

แฉ ร้านโอเกะสุดแสบ เช็กบิลลูกค้าโต๊ะละ 3 หมื่น อดีตตำรวจยศร.ต.ต.พาแฟนสาวไปนั่งร้องเพลงโอเกะ นั่งร้องเพลง 3 ช.ม.เรียกเก็บตังค์ พอเห็นบิลแทบช็อกยอดเงิน 3 หมื่นบาท ค่าเด็กนั่งดริงก์ปาเข้าไปเกือบหมื่น ค่า น้ำแข็ง 550 บาท ค่าผ้าเย็น 200 บาท น้ำส้มเกือบ 4 พันบาท ลูกอมเม็ดละ 100 บาท ต่อรองจนเหลือ 1.6 หมื่นก็ยังไม่พอจ่าย เลยโดนชายฉกรรจ์ล้อมกรอบ บังคับให้ไปกดเอทีเอ็มจ่ายจนครบแล้วยึดมือถือไปอีก 2 เครื่อง เหยื่อขึ้นโรงพักแจ้งจับข้อหาปล้น-กักขัง ผกก.ระบุทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นข้อพิพาทระหว่างร้านอาหารกับลูกค้า ต้องไปร้องสคบ. แฉร้านโอเกะเพิ่งเปิด 4-5 เดือนโดนร้องเรียนอื้อ วันก่อนมีวัยรุ่นไปนั่งร้องเพลงโดนไป 5 หมื่นจนต้องทิ้งเก๋งบีเอ็มฯไว้

เมื่อ เวลา 01.30 น.วันที่ 20 ต.ค. พ.ต.ท. สุรพล ขาวคม พงส.สบ.2 สน.ประชาชื่น ได้รับแจ้งจากร.ต.ต.อัฏฐะพันธ์ ใจเที่ยง อายุ 42 ปี อดีตตำรวจ อยู่บ้านเดิม เลขที่ 31 ต.แม่ปึม อ.เมืองพะเยา และน.ส.อารีวรรณ สาธรรม อายุ 43 ปี แฟนสาว ว่าได้เข้าไปกินอาหารที่ร้านเมโลดี้ คาราโอเกะ ริมถนนงามวงศ์วาน แขวงทุ่งสอง ห้อง เขตหลักสี่ กทม. และถูกเรียกเก็บค่าอาหารแพงเกินราคากว่า 30,000 บาท และสุดท้ายมีการตกลงกันได้เหลือ 16,000 บาท แต่ยังถูกยึดโทรศัพท์มือถือไปด้วย 2 เครื่อง และขอให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับทางร้านในข้อหาปล้นทรัพย์และกักขังหน่วง เหนี่ยว

ร.ต.ต.อัฏฐะพันธ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุประ มาณ 2 ทุ่มเศษ ตนพร้อมแฟนได้มาเที่ยวที่ร้านเมโลดี้ คาราโอเกะ โดยเปิดห้องร้องเพลงคาราโอเกะกัน จากนั้นได้สั่งเหล้ายี่ห้อเรดเลเบิ้ล 1 ขวด และมีมิกเซอร์เป็นน้ำและโซดา โดยตนเรียกเด็กนั่งดริงก์ให้เข้ามานั่งคุยด้วย 2 คน ก็นั่งดื่มกินกัน และร้องเพลงไปด้วย จนกระทั่งเวลา 23.30 น. ก็ได้สั่งให้เก็บเงิน เมื่อพนักงานส่งบิลให้ดูก็แทบจะเป็นลม เพราะบิลรวมทั้งหมดเป็นเงิน 30,000 บาท ตนก็บอกว่ามันแพงเกินไปนะ มีค่าเด็กที่มานั่งคุยด้วยเกือบ 10,000 บาท ค่าลูกอมอีก 300 บาท และคนที่มานั่งก็มาแค่ 2 คน ไม่เหมือนกับที่ลงบิลไว้ 7 คน และก็ไม่ได้มานั่งตลอด ไปๆ มาๆ นอกจากนี้ยังมีเด็กคนอื่นเข้ามานั่งด้วย

ร.ต.ต.อัฏฐะพันธ์กล่าวว่า ต่อมาทางร้านได้มาบอกว่างั้นจะลดราคาให้เหลือ 16,350 บาท ตนก็บอกว่ามีเงินแค่ 7,000 บาท จากนั้นก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหลายคนเข้ามาล้อมตนเอง และพูดทำนองข่มขู่ว่าถ้าไม่มีเงินจ่ายก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากร้านโดย สวัสดิภาพเลย แล้วก็ได้ยึดโทรศัพท์มือถือของตนไปจำนวน 2 เครื่องและบังคับให้ตนเองไปกดเงินที่แบงก์กสิกรไทยใกล้ๆ ร้าน ตนก็กลัวว่าจะถูกทำร้าย จึงได้ไปกดเงินมาให้อีก 8,000 บาท จึงได้ออกมาจากร้านได้ แต่ยังมีโทรศัพท์อีก 2 เครื่องที่ยังไม่ได้คืนมา ตนจึงบอกว่าเดี๋ยวจะไปแจ้งความจนมาถึงที่ สน.ทางร้านได้ให้เด็กเอาโทรศัพท์มาคืน

จากการตรวจสอบบิลของทางร้าน พบว่ามีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ ประกอบด้วย ค่าน้ำแข็ง 550 บาท ค่าผ้าเย็น 5 ผืน 200 บาท น้ำส้ม จำ นวน 26 แก้ว ราคา 3,900 บาท ค่าลูกอม 3 เม็ด ราคา 300 บาท และอื่นๆ เป็นจำนวนเงิน 16,350 บาท

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า สำหรับร้านเมโลดี้ คาราโอเกะ แห่งนี้มักจะมีปัญหากับลูกค้าที่มาเที่ยวบ่อยแทบจะทุกวัน และเมื่อหลายวันที่ผ่านมาได้มีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปใช้บริการ โดยมีค่าใช้จ่ายจำนวน 50,000 บาท จนต้องทิ้งรถบีเอ็มฯ ไว้เนื่องจากไม่มีเงินจ่าย และผู้ใช้บริการคนหนึ่งเข้าไปเที่ยวและถูกเก็บค่าอาหารแพงจนไม่มีเงินจ่าย จนต้องทิ้งจักรยานยนต์ไว้

วันเดียวกัน พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ ผกก. สน.ประชาชื่น กล่าวว่า จากที่ได้สอบถามพนักงานสอบสวนที่เข้าเวรรับคดีทราบว่ามีผู้เสียหายได้เข้ามา ใช้บริการที่ร้านเมโลดี้จริง เท่าที่รับรายงานค่าใช้จ่ายที่ปรากฏนั้นแพงเกินจริง ซึ่งเรื่องนี้ได้ทำหนังสือประสานไปยังทางสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้เข้ามาตรวจสอบร้านดังกล่าว เบื้องต้นเรื่องที่เกิดขึ้นตำรวจยังไม่สามารถดำเนินการเอาผิดกับทางร้านได้ เนื่องจากเป็นข้อพิพาทระหว่างร้านอาหารกับลูกค้าที่จะตกลงราคากัน โดยได้ให้เจ้าหน้าที่เป็นคนกลางนัดเจรจา เพื่อมาตกลงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่เท่าที่ดูเห็นว่าค่าอาหารเก็บแพงเกินจริง ส่วนตนไม่เคยเข้าไปเที่ยวจึงไม่ทราบว่าทำไมถึงแพง

พ.ต.ต.วัชรวีร์ ธรรมเสนา สวป. กล่าวว่า เมโลดี้ คาราโอเกะแห่งนี้เพิ่งเปิดมาได้ 4-5 เดือน ช่วงก่อนหน้านี้พบว่าร้านมักมีปัญหากับลูกค้าที่มาเที่ยวอยู่บ่อยๆ เท่าที่ตนทราบมีประมาณ 10 ครั้ง ที่ลูกค้าโวยวายการเรียกเก็บค่าอาหาร 30,000-40,000 บาท ตนต้องไปเจรจาเคลียร์จนจบลงด้วยดี มีอยู่รายหนึ่งพบว่ามีการยึดรถจักรยานยนต์เอาไว้ เป็นค่าอาหารที่ลูกค้าไม่มีเงินจ่าย เมื่อตนสอบถามคนดูแลร้านบอกว่าลูกค้าเต็มใจให้ยึดรถเอาไว้เป็นค่าประกัน เพราะไม่มีเงินจ่ายในช่วงนั้น

"สาเหตุที่เรียกเก็บค่าอาหารแพงส่วน หนึ่งมาจากลูกค้ามักจะไปเที่ยวที่อื่นจนเมา แล้วมาต่อที่ร้านนี้ในช่วงดึกๆ จากนั้นได้เรียกเด็กๆ ไปร่วมนั่งด้วย เมื่อมีการเช็กบิลออกมาพบว่าส่วนใหญ่จะเป็นค่าเด็กนั่งดริงก์ทำให้มีราคาแพง จนทำให้เจ้าตัวหายเมาขึ้นมาทันที และที่พบมีบางรายการราคาแพงเกินจริงก็มี" สวป.สน.ประชา ชื่นกล่าว

พ.ต.ต.วัชรวีร์กล่าวต่อว่า ในส่วนของตำรวจที่ดูแลได้คือการเปิดปิดของร้านว่าเป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่ หากเปิดเกินเวลาจะถูกจับและส่งเปรียบเทียบปรับต่อไป โดยตนได้สั่งการให้รอง สวป.และเจ้าหน้าที่สายตรวจเคร่งครัดในการตรวจตราท้องที่ให้มาก เนื่องจากมีบางร้านฉวยโอกาสหลอกตาตำรวจโดยการปิดไฟหน้าร้าน แต่ยังฝ่าฝืนแอบเปิดให้บริการลูกค้าภายใน หากตรวจเจอจะสั่งปิดทันที

ค่ำวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านเมโลดี้คาราโอเกะ ปรากฏว่าร้านปิดไฟมืด ไม่เปิดให้บริการชั่วคราว

ข้อมูลข่าวสด online

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น